get started with

Intern/Trainee in USA

WHAT IS

Intern/Trainee in USA

โครงการฝึกงาน
ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ประเภทการสมัคร Intern/Trainee

  1. ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship)
  2. ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program)

 

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ

คุณสมบัติพื้นฐาน 

International Student
Internship Program (Intern)

International Practical
Training Program (Trainee)

คุณสมบัติ:

เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย

หรือ

จบการศึกษาไม่เกิน 12 เดือน

(นับถึงวันเริ่มโครงการ)

จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยในสาขาวิชาที่ต้องการฝึกงานและมีประสบการณ์ทำงานนอกประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหนึ่งปีตามสาขาวิชาที่ต้องการฝึกงาน

หรือ

จบการศึกษาในสาขาอื่นๆ แต่มีประสบการณ์ทำงานนอกประเทศสหรัฐอเมริกาตรงตามสาขาวิชาที่ต้องการไปฝึกงาน 5 ปี

ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ:

สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน

สูงสุดไม่เกิน 18 เดือน*

เคยเข้าร่วมโครงการแล้วสามารถเข้าร่วมโครงการได้อีกหรือไม่?

สามารถเข้าร่วมได้แต่ต้องเป็นผู้ที่ยังคงมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการ (กำลังศึกษาอยู่หรือจบการศึกษาไม่เกิน 12 เดือน)

สามารถเข้าร่วมได้แต่ต้องรอให้ครบกำหนด 2 ปีหลังจากสิ้นสุด J-1 Training Program ในครั้งที่ผ่านมา

*ผู้ที่จบสาขาการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว (Hospitality & Tourism Management) ไม่สามารถฝึกงานได้เกิน 12 เดือน ยกเว้นกรณีผู้ที่จบสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น บริหารธุรกิจ (Business Administration) ต้องการไปฝึกงานด้าน sales หรือ marketing ในโรงแรมหรือในร้านอาหารอาจได้รับอนุญาตให้ร่วมโครงการได้สูงสุดถึง 18 เดือน แต่การพิจารณาขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา​

ประเภทการสมัคร Intern/Trainee

  1. ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship)
  2. ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program)

 

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ

International Student Internship Program (Intern)

คุณสมบัติ: เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย หรือ จบการศึกษาไม่เกิน 12 เดือน (นับถึงวันเริ่มโครงการ)

ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ: สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน

เคยเข้าร่วมโครงการแล้วสามารถเข้าร่วมโครงการได้อีกหรือไม่?: สามารถเข้าร่วมได้แต่ต้องเป็นผู้ที่ยังคงมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการ (กำลังศึกษาอยู่หรือจบการศึกษาไม่เกิน 12 เดือน)

 

International Practical Training Program (Trainee)

คุณสมบัติ: จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยในสาขาวิชาที่ต้องการฝึกงานและมีประสบการณ์ทำงานนอกประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหนึ่งปีตามสาขาวิชาที่ต้องการฝึกงาน หรือจบการศึกษาในสาขาอื่นๆ แต่มีประสบการณ์ทำงานนอกประเทศสหรัฐอเมริกาตรงตามสาขาวิชาที่ต้องการไปฝึกงาน 5 ปี

ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ: สูงสุดไม่เกิน 18 เดือน*

เคยเข้าร่วมโครงการแล้วสามารถเข้าร่วมโครงการได้อีกหรือไม่?: สามารถเข้าร่วมได้แต่ต้องรอให้ครบกำหนด 2 ปีหลังจากสิ้นสุด J-1 Training Program ในครั้งที่ผ่านมา

*ผู้ที่จบสาขาการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว (Hospitality & Tourism Management) ไม่สามารถฝึกงานได้เกิน 12 เดือน ยกเว้นกรณีผู้ที่จบสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น บริหารธุรกิจ (Business Administration) ต้องการไปฝึกงานด้าน sales หรือ marketing ในโรงแรมหรือในร้านอาหารอาจได้รับอนุญาตให้ร่วมโครงการได้สูงสุดถึง 18 เดือน แต่การพิจารณาขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา​

คุณสมบัติอื่นๆ

คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ขึ้นไป
  • ผู้สมัคร Internship หรือ Training Program ต้องกำลังศึกษาอยู่หรือสำเร็จการศึกษาหรือมีประสบการณ์ทำงานในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการไปฝึก ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • การสัมภาษณ์ ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการทุกท่านต้องผ่านการสัมภาษณ์รายบุคคลโดยองค์กรแลกเปลี่ยนผู้จัดโครงการ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา (Sponsor Organization) ซึ่งการสัมภาษณ์ อาจเป็นเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือสัมภาษณ์ทาง Skype โดยที่องค์กรฯ จะเป็นผู้กำหนดและแจ้งให้ทราบ ภายหลังผู้สมัครผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติพื้นฐานแล้ว
  • ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการพูดและใช้ทักษะภาษาอังกฤษขั้นดีมาก
  • ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่สามารถทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุตลอดระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการ เงื่อนไขของประกันต้องตรงตามกฎระเบียบข้อบังคับของประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ผู้สมัครต้องสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตนเอง (ค่าที่พักและค่าครองชีพ) ในระหว่างฝึกงานในประเทศสหรัฐอเมริกา
  • สาขาวิชาที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้มีดังนี้ สถาปัตยกรรม, บริหารธุรกิจ, การเงินการธนาคาร,วิศวกรรมศาสตร์, การโรงแรมและการท่องเที่ยว, สารสนเทศ, การจัดการ, การตลาด, กฎหมาย, โฆษณา
  • สาขาวิชาที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้มีดังนี้ แพทย์ศาสตร์ หรือ สาขาวิชาเกี่ยวข้องกับแพทย์ , ศึกษาศาสตร์ (การสอน), สังคมสงเคราะห์
HOW TO

วิธีการสมัครสำหรับกรณีที่มีนายจ้างแล้ว

ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship) ต้องยื่นเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ใบสมัครขององค์กร (Sponsorship Organization)
  2. ใบสมัคร Host Company ของ องค์กร (Sponsorship Organization กรอกโดยนายจ้างที่สหรัฐอเมริกา
  3. จดหมายตอบรับเข้าทำงานของนายจ้างที่สหรัฐอเมริกา
  4. Resume
  5. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว x 2 นิ้ว 2 ใบ
  6. ใบรายงานผลการศึกษา (transcript) ฉบับจริง 1 ชุด
  7. ใบแปลปริญญาบัตรรับรองโดยกระทรวงการต่างประเทศ ฉบับจริง 1 ชุด
  8. สำเนาผลสอบภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL หรือ IELTS 1 ชุด (ถ้ามี)
  9. จดหมายรับรองจากนายจ้างปัจจุบันหรือจากการทำงานที่ผ่านมา
  10. สำเนาเอกสารการผ่อนผันทางทหาร (สำหรับผู้สมัครชาย) 1 ชุด
  11. พาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน พร้อมสำเนา 1 ชุด
  12. หนังสือรับรองสถานภาพทางการเงิน ( Financial Statement) ขอจากธนาคารตัวจริงและมีเงินรับรองไม่ต่ำกว่า US$ 2,000
  13. DS-7002 Training/Internship Placement Plan ที่เซ็นและกรอกสมบูรณ์โดยนายจ้างที่สหรัฐอเมริกา
  14. ค่าโครงการเต็มจำนวน

 

ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program) ต้องยื่นเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ใบสมัครขององค์กร (Sponsorship Organization)
  2. Resume
  3. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว x 2 นิ้ว 2 ใบ
  4. ใบรายงานผลการศึกษา (transcript) ฉบับจริง 1 ชุด
  5. ใบแปลปริญญาบัตรรับรองโดยกระทรวงการต่างประเทศ ฉบับจริง 1 ชุด
  6. สำเนาผลสอบภาษาอังกฤษ TOEIC, TOEFL หรือ IELTS 1 ชุด (ถ้ามี)
  7. จดหมายรับรอง
  • ต้องเป็นจดหมายฉบับจริง ห้ามใช้สำเนา
  • หากเป็นจดหมายรับรองจากอาจารย์ ต้องเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาหรืออาจารย์ประจำคณะที่สำเร็จการศึกษามา
  • หากเป็นจดหมายรับรองจากบุคคลอื่น ควรเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา เช่นหัวหน้างาน
  • หรือผู้บริหารของสถานที่ทำงานที่ได้รับประสบการณ์ทำงานมา
  • จดหมายรับรองสามารถยื่นได้มากกว่า 2 ฉบับ
  1. ประสบการณ์ทำงาน
  • หากมีประกาศนียบัตรผ่านงานสามารถนำมายื่นประกอบได้ (ใช้สำเนาได้)
  • หากมีประสบการณ์ทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกามาก่อน ไม่จำเป็นต้องยื่นใบผ่านงาน เพราะประสบการณ์การทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้ร่วมพิจารณาการเข้าร่วมโครงการได้
  1. สำเนาเอกสารการผ่อนผันทางทหาร (สำหรับผู้สมัครชาย) 1 ชุด
  2. พาสปอร์ตที่่มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน พร้อมสำเนา 1 ชุด
  3. ค่าจัดหาสถานที่ฝึกงาน จำนวน 500 เหรียญสหรัฐ (ไม่สามารถเรียกคืนได้ทุกกรณี)
  4. หนังสือรับรองสถานภาพทางการเงิน ( Financial Statement) ขอจากธนาคารตัวจริงและมีเงินรับรองไม่ต่ำกว่า US$ 2,000
  5. DS-7002 Training/Internship Placement Plan ที่เซ็นและกรอกสมบูรณ์โดยนายจ้างที่สหรัฐอเมริกา

ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการ

ขั้นตอนที่

รายละเอียดขั้นตอน

ค่าใช้จ่าย

ขั้นตอนที่ 1:

ผู้สมัครพบเจ้าหน้าที่ตัวแทนองค์กรในประเทศไทย เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นว่าสามารถสมัครได้หรือไม่

ตรวจสอบตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร

รับแบบฟอร์ม Cover Letter และ Resume ขององค์กรฯ ได้ที่เจ้าหน้าที่

ฟรี

ขั้นตอนที่ 2:

ผู้สมัครส่งใบสมัครที่กรอกสมบูรณ์, แนบเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วนตามที่องค์กรฯ ต้องการ

ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship):

ชำระค่าโครงการเต็มจำนวน

ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program): ชำระค่าจัดหาสถานที่ฝึกงาน จำนวน 500 เหรียญสหรัฐ (ไม่สามารถเรียกคืนได้ทุกกรณี)

ขั้นตอนที่ 3:

เมื่อองค์กรฯ ได้รับใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครแล้ว

ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship): สัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่ขององค์กรฯ เมื่อผ่านการสัมภาษณ์สามารถเริ่มขั้นตอนที่ 5 ได้ทันที

ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program)

องค์กรฯ จะทำการพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครเบื้องต้นว่าถูกต้องและครบถ้วนตรงตามประเภทงานที่ต้องการสมัครหรือไม่ โดยการพิจารณาอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

กรณีผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว องค์กรฯ จะติดต่อผู้สมัครเพื่อนัดสัมภาษณ์

กรณีที่นายจ้างขอยืดระยะเวลาในการพิจารณาออกไป ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผู้สมัครสามารถยอมรับหรือ ปฎิเสธ

หากยอมรับ ผู้สมัครแจ้งองค์กรและเซ็นยินยอมที่จะรอการพิจารณาจากนายจ้างเดิมต่อไป

หากปฎิเสธไม่ต้องการรอ องค์กรฯ จะทำการพิจารณาหาสถานที่ฝึกงานแห่งใหม่ที่ตรงตามคุณสมบัติผู้สมัครทันที

การจัดหาสถานที่ฝึกงานให้ผู้สมัครอาจใช้เวลาถึง 2 เดือนหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความสามารถในทักษะต่างๆ รวมทั้งทักษะทางด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัคร

 

ขั้นตอนที่ 4:

ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program)

เมื่อได้รับการตอบรับให้เข้าร่วมฝึกงานจากนายจ้าง ผู้สมัครต้องชำระค่าโครงการส่วนที่ 2 (ส่วนที่เหลือทั้งหมด)ให้องค์กรฯ

ค่าโครงการส่วนที่เหลือ

ขั้นตอนที่ 5:

เมื่อได้รับการรับรองทางด้านเอกสารเพื่อรับเข้าฝึกงานจากนายจ้าง ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ จะได้รับอีเมล์ยืนยันจากองค์กรฯ พร้อม SEVIS ID. พร้อมขั้นตอนในการจ่ายค่า SEVIS ผ่านทางเวบไซต์ของหน่วยงานของรัฐบาลอเมริกัน และได้รับเอกสารสิทธิ์ในการยื่นวีซ่า (DS-2019 Form) พร้อมข้อมูลสำคัญอื่นๆ ประกอบการยื่นวีซ่า

200 เหรียญสหรัฐ

ขั้นตอนที่ 6:

หลังจากที่ผู้สมัครได้ชำระค่า SEVIS Fee เรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครสามารถทำการสมัครขอยื่นวีซ่าประเภท J-1 เพื่อเข้าร่วมโครงการ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ค่า Visa Package ประมาณ 6,500 บาท

(รวมอัตราค่าซื้อรหัสประจำตัว (PIN) และค่าธรรมเนียมไปรษณีย์และค่าซองเพื่อส่งพาสปอร์ตจากสถานทูตถึงผู้สมัคร)

ขั้นตอนที่ 7:

เมื่อผ่านการสัมภาษณ์วีซ่าและได้รับวีซ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะต้องแจ้งให้องค์กรฯ รับทราบ กรณีถูกปฎิเสธวีซ่าต้องทำการแจ้งองค์กรฯ และตัวแทนองค์กรฯ ในประเทศไทยทันทีให้รับทราบสถานการณ์

 

ขั้นตอนที่ 8:

แจ้งแผนการเดินทางให้องค์กรฯ และนายจ้างรับทราบ

ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับประเทศสหรัฐอเมริกา (ราคาค่าตั๋วเครื่องบินสามารถตรวจสอบได้จากตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินทั่วประเทศ)

ขั้นตอนที่ 9:

เดินทางเข้าร่วมโครงการ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เตรียม Pocket Money อย่างน้อยประมาณ 1,500 เหรียญสหรัฐ

 

ขั้นตอนที่ 1:

ผู้สมัครพบเจ้าหน้าที่ตัวแทนองค์กรในประเทศไทย เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นว่าสามารถสมัครได้หรือไม่ ตรวจสอบตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร รับแบบฟอร์ม Cover Letter และ Resume ขององค์กรฯ ได้ที่เจ้าหน้าที่  (ฟรี ค่าใช้จ่าย)

ขั้นตอนที่ 2: 

ผู้สมัครส่งใบสมัครที่กรอกสมบูรณ์, แนบเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วนตามที่องค์กรฯ ต้องการ (ค่าใช้จ่าย: ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship): ชำระค่าโครงการเต็มจำนวน / ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program): ชำระค่าจัดหาสถานที่ฝึกงาน จำนวน 500 เหรียญสหรัฐ (ไม่สามารถเรียกคืนได้ทุกกรณี))

ขั้นตอนที่ 3:

เมื่อองค์กรฯ ได้รับใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครแล้ว

ผู้สมัครที่สมัครแบบจัดหางานเอง (J1 Visa Sponsorship): สัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่ขององค์กรฯ เมื่อผ่านการสัมภาษณ์สามารถเริ่มขั้นตอนที่ 5 ได้ทันที

ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program) องค์กรฯ จะทำการพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครเบื้องต้นว่าถูกต้องและครบถ้วนตรงตามประเภทงานที่ต้องการสมัครหรือไม่ โดยการพิจารณาอาจใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ กรณีผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว องค์กรฯ จะติดต่อผู้สมัครเพื่อนัดสัมภาษณ์ กรณีที่นายจ้างขอยืดระยะเวลาในการพิจารณาออกไป ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผู้สมัครสามารถยอมรับหรือ ปฎิเสธ หากยอมรับ ผู้สมัครแจ้งองค์กรและเซ็นยินยอมที่จะรอการพิจารณาจากนายจ้างเดิมต่อไป หากปฎิเสธไม่ต้องการรอ องค์กรฯ จะทำการพิจารณาหาสถานที่ฝึกงานแห่งใหม่ที่ตรงตามคุณสมบัติผู้สมัครทันที การจัดหาสถานที่ฝึกงานให้ผู้สมัครอาจใช้เวลาถึง 2 เดือนหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความสามารถในทักษะต่างๆ รวมทั้งทักษะทางด้านภาษาอังกฤษของผู้สมัคร

ขั้นตอนที่ 4:

ผู้สมัครที่ให้องค์กรฯ จัดหางานให้ (Intern/Trainee Placement Program) เมื่อได้รับการตอบรับให้เข้าร่วมฝึกงานจากนายจ้าง ผู้สมัครต้องชำระค่าโครงการส่วนที่ 2 (ส่วนที่เหลือทั้งหมด)ให้องค์กรฯ (ค่าใช้จ่าย: ค่าโครงการส่วนที่เหลือ)

ขั้นตอนที่ 5:

เมื่อได้รับการรับรองทางด้านเอกสารเพื่อรับเข้าฝึกงานจากนายจ้าง ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ จะได้รับอีเมล์ยืนยันจากองค์กรฯ พร้อม SEVIS ID. พร้อมขั้นตอนในการจ่ายค่า SEVIS ผ่านทางเวบไซต์ของหน่วยงานของรัฐบาลอเมริกัน และได้รับเอกสารสิทธิ์ในการยื่นวีซ่า (DS-2019 Form) พร้อมข้อมูลสำคัญอื่นๆ ประกอบการยื่นวีซ่า (ค่าใช้จ่าย: 200 เหรียญสหรัฐ)

ขั้นตอนที่ 6:

หลังจากที่ผู้สมัครได้ชำระค่า SEVIS Fee เรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครสามารถทำการสมัครขอยื่นวีซ่าประเภท J-1 เพื่อเข้าร่วมโครงการ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา (ค่าใช้จ่าย: ค่า Visa Package ประมาณ 6,500 บาท (รวมอัตราค่าซื้อรหัสประจำตัว (PIN) และค่าธรรมเนียมไปรษณีย์และค่าซองเพื่อส่งพาสปอร์ตจากสถานทูตถึงผู้สมัคร))

ขั้นตอนที่ 7:

เมื่อผ่านการสัมภาษณ์วีซ่าและได้รับวีซ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะต้องแจ้งให้องค์กรฯ รับทราบ กรณีถูกปฎิเสธวีซ่าต้องทำการแจ้งองค์กรฯ และตัวแทนองค์กรฯ ในประเทศไทยทันทีให้รับทราบสถานการณ์

ขั้นตอนที่ 8:

แจ้งแผนการเดินทางให้องค์กรฯ และนายจ้างรับทราบ (ค่าใช้จ่าย: ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับประเทศสหรัฐอเมริกา (ราคาค่าตั๋วเครื่องบินสามารถตรวจสอบได้จากตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินทั่วประเทศ))

ขั้นตอนที่ 9:

เดินทางเข้าร่วมโครงการ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา (ค่าใช้จ่าย: เตรียม Pocket Money อย่างน้อยประมาณ 1,500 เหรียญสหรัฐ)

REGISTER ONLINE

Join us Register now!